Saturday, August 13, 2011

38.อาฏานาฏิยปริตร


                                เริ่มอาฏานาฏิยปริตร  
                                                                    
                                                                   
                                อัปปะสันเนหิ  นาถัสสะ                    สาสะเน  สาธุสัมมะเต 
อะมะนุสเสหิ  จัณเฑหิ                       สะทา  กิพพิสะการิภิ 
ปะริสานัญจะ  ตัสสันนะ-                  มะหิงสายะ  จะ  คุตติยา 
ยันเทเสสิ  มะหาวีโร                           ปะริตตันตัมภะณามะ   เห ฯ 

                              พระพุทธเจ้าผู้แกล้วกล้าใหญ่ยิ่งได้ทรงแสดงพระปริตรบทใดไว้

                                เพื่อคุ้มกันบริษัททั้งสี่มิให้ถูกเบียดเบียนจากพวกอมนุษย์ที่ดุร้าย

สันดานบาปทำกรรมหยาบช้าทุกเมื่อ มิได้เลื่อมใสพระศาสนาของพระโลกนาถซึ่งวิญญูชนต่างยอมรับกันว่าดี    เราทั้งหลายจงสวดพระปริตรบทนั้น เทอญ



                                                     อาฏานาฏิยปริตร  

                                วิปัสสิสสะ  นะมัตถุ                           จักขุมันตัสสะ  สิรีมะโต 
สิขิสสะปิ  นะมัตถุ                              สัพพะภูตานุกัมปิโน 
ขอนอบน้อมแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า
ผู้มีพระจักษุ มีพระสิริ
                                                            ขอนอบน้อมแด่พระสิขีพุทธเจ้า
ผู้ทรงอนุเคราะห์แก่สัตว์ทั่วหน้า

เวสสะภุสสะ  นะมัตถุ                        นหาตะกัสสะ  ตะปัสสิโน 
นะมัตถุ  กะกุสันธัสสะ                      มาระเสนัปปะมัททิโน 
ขอนอบน้อมแด่พระเวสสภูพุทธเจ้า
ผู้ทรงชำระกิเลส มีความเพียร
ขอนอบน้อมแด่พระกกุสันธพุทธเจ้า
ผู้ทรงย่ำยีมารและเสนามาร

โกนาคะมะนัสสะ  นะมัตถุ               พราหมะณัสสะ วุสีมะโต   
กัสสะปัสสะ  นะมัตถุ                         วิปปะมุตตัสสะ  สัพพะธิ
อังคีระสัสสะ  นะมัตถุ                       สักยะปุตตัสสะ  สิรีมะโต 
ขอนอบน้อมแด่พระโกนาคมน์พุทธเจ้า
ผู้มีบาปอันลอยแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์
ขอนอบน้อมแด่พระกัสสปพุทธเจ้า
ผู้พ้นพิเศษแล้วในธรรมทั้งปวง
ขอนอบน้อมแด่พระอังคีรสพุทธเจ้า
ผู้ศากยบุตร ผู้มีพระสิริ

โย  อิมัง  ธัมมะมะเทเสสิ    สัพพะทุกขาปะนูทะนัง 
เย  จาปิ  นิพพุตา  โลเก                       ยะถาภูตัง  วิปัสสิสุง
                                เต  ชะนา  อะปิสุณา                             มะหันตา  วีตะสาระทา 
พระพุทธเจ้าพระองค์ใดได้ทรงแสดงธรรมนี้
อันเป็นเครื่องบำบัดทุกข์ทั้งปวง
อนึ่ง พระพุทธเจ้าเหล่าใด ผู้ดับแล้วในโลก
ทรงเห็นแจ้งแล้วตามเป็นจริง
พระพุทธเจ้าเหล่านั้น เป็นผู้ไม่ส่อเสียด
เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ปราศจากความครั่นคร้าม

หิตัง  เทวะมะนุสสานัง                      ยัง  นะมัสสันติ  โคตะมัง
วิชชาจะระณะสัมปันนัง                    มะหันตัง  วีตะสาระทัง
วิชชาจะระณะสัมปันนัง                    พุทธัง  วันทามะ  โคตะมันติ ฯ 
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายนอบน้อมพระพุทธเจ้า
พระองค์ใด ผู้โคตมโคตร
ผู้ทรงเกื้อกูลแก่ทวยเทพและมนุษย์
ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
เป็นผู้ยิ่งใหญ่ ปราศจากความครั่นคร้าม
เราทั้งหลายขออภิวาทพระพุทธเจ้าผู้โคตมโคตร
ผู้ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ พระองค์นั้น

                                นะโม  เม  สัพพะพุทธานัง             อุปปันนานัง  มะเหสินัง 
ตัณหังกะโร  มะหาวีโร                     เมธังกะโร  มะหายะโส   
สะระณังกะโร  โลกะหิโต               ทีปังกะโร  ชุตินธะโร 
โกณฑัญโญ  ชะนะปาโมกโข         มังคะโล  ปุริสาสะโภ 
สุมะโน  สุมะโน  ธีโร                    เรวะโต  ระติวัฑฒะโน  
โสภิโต  คุณะสัมปันโน                    อะโนมะทัสสี  ชะนุตตะโม 
ปะทุโม   โลกะปัชโชโต                  นาระโท   วะระสาระถี  
ปะทุมุตตะโร  สัตตะสาโร                สุเมโธ   อัปปะฏิปุคคะโล
สุชาโต  สัพพะโลกัคโค                    ปิยะทัสสี  นะราสะโภ 
อัตถะทัสสี  การุณิโก                         ธัมมะทัสสี  ตะโมนุโท 
สิทธัตโถ  อะสะโม  โลเก                 ติสโส  จะ  วะทะตัง  วะโร 
ปุสโส  จะ  วะระโท  พุทโธ            วิปัสสี  จะ  อะนูปะโม 
สิขี  สัพพะหิโต  สัตถา                     เวสสะภู  สุขะทายะโก 
กะกุสันโธ  สัตถะวาโห                    โกนาคะมะโน  ระณัญชะโห 
กัสสะโป  สิริสัมปันโน                     โคตะโม  สักยะปุงคะโว ฯ

                                เอเต  จัญเญ  จะ  สัมพุทธา                อเนกะสะตะโกฏะโย 
สัพเพ  พุทธา  อะสะมะสะมา            สัพเพ  พุทธา  มะหิทธิกา
พระพุทธเจ้าเหล่านี้ก็ดี เหล่าอื่นก็ดี หลายร้อยโกฏิ
พระพุทธเจ้าเหล่านั้นทั้งหมดล้วนเสมอกับผู้ที่ไม่มีใครเสมอ
พระพุทธเจ้าทั้งหมดล้วนมีฤทธิ์มาก

สัพเพ  ทะสะพะลูเปตา                      เวสารัชเชหุปาคะตา 
สัพเพ  เต  ปะฏิชานันติ                      อาสะภัณฐานะมุตตะมัง 
ทุกพระองค์ล้วนประกอบไปด้วยทศพลญาณ
ประกอบไปด้วยเวสารัชชญาณ
พระพุทธเจ้าเหล่านั้นทุกพระองค์ล้วนตรัสรู้อยู่
ซึ่งฐานะแห่งผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด

สีหะนาทัง  นะทันเตเต                      ปะริสาสุ  วิสาระทา 
พรัหมะจักกัง  ปะวัตเตนติ                โลเก  อัปปะฏิวัตติยัง 
พระพุทธเจ้าเหล่านั้นเป็นผู้องอาจไม่ครั่นคร้าม
บันลือสีหนาทในบริษัททั้งหลาย
ยังพรหมจักรอันใครๆ ยังไม่เคยหมุนได้
ให้พัดผันไปในโลก

อุเปตา  พุทธะธัมเมหิ                         อัฏฐาระสะหิ  นายะกา 
ทวัตติงสะลักขะณูเปตา                สีตยานุพยัญชะนาธะรา 
พยามัปปะภายะ  สุปปะภา                สัพเพ  เต  มุนิกุญชะรา 
พระพุทธเจ้าผู้นำโลก
ทรงประกอบด้วยพุทธธรรม ๑๘ ประการ
มหาบุรุษลักษณะ ๓๒ ประการ
ทรงไว้ซึ่งอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ
มีพระรัศมีอันงามผุดผ่องประมาณวาหนึ่งเป็นปริมณฑล
ทุกพระองค์ทรงเป็นพระมุนีผู้ประเสริฐ
ปานว่าพญากุญชรชาติอันมีตระกูล

พุทธา  สัพพัญญุโน  เอเต  สัพเพ  ขีณาสะวา  ชินา 
มะหัปปะภา  มะหาเตชา                    มะหาปัญญา  มะหัพพะลา
พระพุทธเจ้าเหล่านั้นล้วนเป็นพระสัพพัญญู
ผู้สิ้นแล้วซึ่งกิเลสาสวะชำนะมาร
มีพระรัศมีตระการเป็นมหาเดช
ทั้งพระปัญญาก็วิเศษทรงพลานุภาพมาก

มะหาการุณิกา  ธีรา                             สัพเพสานัง  สุขาวะหา 
ทีปา  นาถา  ปะติฏฐา  จะ  ตาณา  เลณา  จะ  ปาณินัง 
ทั้งพระกรุณาก็หลายหลากเป็นปราชญ์ทรงปรีชา
ทรงนำสุขมาแก่สัตว์โลกทั้งปวง
เป็นเกาะแก้วกลางทะเลหลวงให้ได้พึ่งพักอาศัย
เป็นที่ปกป้องหลบภัยแก่ปวงสัตว์

คะตี  พันธู  มะหัสสาสา                     สะระณา  จะ  หิเตสิโน 
สะเทวะกัสสะ  โลกัสสะ                     สัพเพ  เอเต  ปะรายะนา 
เป็นทางดำเนินถนัดประหนึ่งว่าพวกพ้องผ่อนสุขสบาย
เป็นที่ระลึกแล้วมิวายแสวงสิ่งเป็นหิตานุหิตประโยชน์
ทุกพระองค์ยังทรงโปรดเป็นที่พึงไปพึงถึงในเบื้องหน้า
ของชาวโลกตลอดสวรรค์ชั้นฟ้าทุกโลกธาตุ

เตสาหัง  สิระสา  ปาเท                       วันทามิ  ปุริสุตตะเม 
วะจะสา  มะนะสา  เจวะ                    วันทาเมเต  ตะถาคะเต
ข้าขอน้อมเกล้าถวายอภิวาทพระบาทยุคล
แห่งพระทศพลเหล่านั้น
และขออภิวันทน์ด้วยวาจาแลดวงจิต
ถวายพระธรรมสามิศตถาคตเจ้า
ผู้เป็นอุดมบุรุษทั้งหลายเหล่านั้นแล

สะยะเน  อาสะเน  ฐาเน                     คะมะเน  จาปิ  สัพพะทา 
สะทา  สุเขนะ  รักขันตุ                      พุทธา  สันติกะรา  ตุวัง 
พระพุทธเจ้าผู้ทรงกระทำสันติคือพระนิพพาน
จงรักษาท่านให้มีความสุขทุกเมื่อ
ทั้งในยามนอนยามนั่งกระทั่งยืนเดิน
ตลอดกาลทุกเมื่อเถิด

เตหิ  ตวัง  รักขิโต  สันโต  มุตโต  สัพพะภะเยนะ  จะ 
สัพพะโรคะวินิมุตโต                          สัพพะสันตาปะวัชชิโต 
สัพพะเวระมะติกกันโต                      นิพพุโต  จะ   ตุวัง  ภะวะ 
ตัวท่านอันพระพุทธเจ้าทั้งหลายรักษาแล้วจงเป็นผู้สงบ
ปลอดพ้นแล้วจากปวงภัย
รอดพ้นไปจากโรคาพาธ
เว้นขาดจากความเดือดร้อนทั้งปวง
ล่วงพ้นจากการผูกพันกับผองเวร
และจงดับเย็นสิ้นทุกข์ทั้งมวล เทอญ

เตสัง  สัจเจนะ  สีเลนะ                     ขันติเมตตาพะเลนะ  จะ 
เตปิ  ตุมเห  อะนุรักขันตุ                                  อาโรคเยนะ  สุเขนะ  จะ  ฯ
                                ปุรัตถิมัสมิง  ทิสาภาเค                      สันติ  ภูตา  มะหิทธิกา 
เตปิ  ตุมเห  อะนุรักขันตุ                                  อาโรคเยนะ  สุเขนะ  จะ 
ทักขิณัสมิง  ทิสาภาเค                       สันติ  เทวา  มะหิทธิกา 
เตปิ  ตุมเห  อะนุรักขันตุ                   อาโรคเยนะ  สุเขนะ  จะ 
ปัจฉิมัสมิง  ทิสาภาเค                        สันติ  นาคา  มะหิทธิกา 
เตปิ  ตุมเห  อะนุรักขันตุ                                  อาโรคเยนะ  สุเขนะ  จะ 
อุตตะรัสมิง  ทิสา  ภาเค                    สันติ  ยักขา  มะหิทธิกา                                        
เตปิ   ตุมเห  อะนุรักขันตุ                 อาโรคเยนะ  สุเขนะ  จะ
ปุริมะทิสัง  ธะตะรัฏโฐ                    ทักขิเณนะ  วิรุฬหะโก 
ปัจฉิเมนะ  วิรูปักโข                           กุเวโร  อุตตะรัง  ทิสัง 
จัตตาโร  เต  มะหาราชา                  โลกะปาลา  ยะสัสสิโน 
เตปิ  ตุมเห  อะนุรักขันตุ                                  อาโรคเยนะ  สุเขนะ  จะ 
อากาสัฏฐา  จะ  ภุมมัฏฐา                เทวา  นาคา  มะหิทธิกา 
เตปิ  ตุมเห  อะนุรักขันตุ                                  อาโรคเยนะ  สุเขนะ  จะ ฯ

                                นัตถิ  เม  สะระณัง อัญญัง                 พุทโธ  เม  สะระณัง  วะรัง
เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ                      โหตุ  เต  ชะยะมังคะลัง 
                ที่พึ่งอันอื่นมิได้มีแก่ข้าพเจ้าเลย
พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้
ขอชัยมงคงจงมีแก่ท่าน

นัตถิ  เม  สะระณัง อัญญัง                 ธัมโม  เม  สะระณัง วะรัง 
เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ                      โหตุ  เต ชะยะมังคะลัง 
                ที่พึ่งอันอื่นมิได้มีแก่ข้าพเจ้าเลย
พระธรรมเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้
ขอชัยมงคงจงมีแก่ท่าน

นัตถิ  เม  สะระณัง อัญญัง                 สังโฆ  เม  สะระณัง วะรัง 
เอเตนะ  สัจจะวัชเชนะ                      โหตุ  เต  ชะยะมังคะลัง ฯ
                ที่พึ่งอันอื่นมิได้มีแก่ข้าพเจ้าเลย
พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้
ขอชัยมงคงจงมีแก่ท่าน

                                ยังกิญจิ  ระตะนัง  โลเก                      วิชชะติ  วิวิธัง  ปุถุ
ระตะนัง  พุทธะสะมัง  นัตถิ             ตัสมา  โสตถี  ภะวันตุ  เต   
รัตนะอย่างใดอย่างหนึ่งมีอยู่หลายหลากมากมายในโลก
แต่รัตนะที่จะเสมอกับพระพุทธเจ้านั้นหามีไม่
ด้วยเหตุดังนั้น ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน

ยังกิญจิ  ระตะนัง  โลเก                      วิชชะติ  วิวิธัง  ปุถุ
                                ระตะนัง  ธัมมะสะมัง  นัตถิ             ตัสมา  โสตถี  ภะวันตุ  เต   
รัตนะอย่างใดอย่างหนึ่งมีอยู่หลายหลากมากมายในโลก
แต่รัตนะที่จะเสมอกับพระธรรมนั้นหามีไม่

ด้วยเหตุดังนั้น ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน


ยังกิญจิ  ระตะนัง  โลเก                      วิชชะติ  วิวิธัง  ปุถุ
                                ระตะนัง  สังฆะสะมัง  นัตถิ             ตัสมา  โสตถี  ภะวันตุ เต ฯ
รัตนะอย่างใดอย่างหนึ่งมีอยู่หลายหลากมากมายในโลก
แต่รัตนะที่จะเสมอกับพระสงฆ์นั้นหามีไม่
ด้วยเหตุดังนั้น ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่าน

                                สักกัตวา  พุทธะระตะนัง  โอสะถัง  อุตตะมัง  วะรัง                                          หิตัง  เทวะมะนุสสานัง                               พุทธะเตเชนะ  โสตถินา 
นัสสันตุปัททะวา  สัพเพ  ทุกขา  วูปะสะเมนตุ  เต 
เพราะกระทำสักการะพระพุทธรัตนะ
อันเป็นประดุจโอสถประเสริฐสูงสุด
อำนวยประโยชน์แก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย 
ด้วยเดชแห่งพระพุทธเจ้า
ขอสรรพอุปัทวันตรายจงบำราศไป
ขอทุกข์ของท่านจงสงบรำงับ โดยสวัสดีเถิด

สักกัตวา  ธัมมะระตะนัง                   โอสะถัง  อุตตะมัง  วะรัง 
ปะริฬาหูปะสะมะนัง                         ธัมมะเตเชนะ  โสตถินา  
นัสสันตุปัททะวา  สัพเพ  ภะยา  วูปะสะเมนตุ  เต
เพราะกระทำสักการะพระธรรมรัตนะ
อันเป็นประดุจโอสถประเสริฐสูงสุด
อำนวยประโยชน์แก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย 
ด้วยเดชแห่งพระธรรมเจ้า
ขอสรรพอุปัทวันตรายจงบำราศไป
ขอภัยของท่านจงสงบรำงับ โดยสวัสดีเถิด

สักกัตวา  สังฆะระตะนัง  โอสะถัง  อุตตะมัง  วะรัง 
อาหุเนยยัง  ปาหุเนยยัง                     สังฆะเตเชนะ  โสตถินา 
นัสสันตุปัททะวา  สัพเพ  โรคา  วูปะสะเมนตุ  เต ฯ
เพราะกระทำสักการะพระสังฆรัตนะ
อันเป็นประดุจโอสถประเสริฐสูงสุด
อำนวยประโยชน์แก่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย 
ด้วยเดชแห่งพระสังฆเจ้า
ขอสรรพอุปัทวันตรายจงบำราศไป
ขอโรคของท่านจงสงบรำงับ โดยสวัสดีเถิด

                                สัพพีติโย  วิวัชชันตุ                            สัพพะโรโค  วินัสสะตุ 
มา  เต  ภะวัตวันตะราโย                    สุขี  ทีฆายุโก  ภะวะ 
                ความจัญไรทั้งปวงจงบำราศไป
                โรคทั้งปวงของท่านจงหาย
                อันตรายอย่ามีแก่ท่าน
                ขอท่านจงเป็นผู้มีความสุข มีอายุยืน

อะภิวาทะนะสีลิสสะ                          นิจจัง  วุฑฒาปะจายิโน 
จัตตาโร  ธัมมา  วัฑฒันติ                  อายุ  วัณโณ  สุขัง  พะลัง ฯ
                ธรรม ๔ ประการ

คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ

                ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติไหว้กราบ
มีปกติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่เป็นนิตย์




ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค 
พระไตรปิฎก เล่ม ๑๑  ข้อ ๒๐๗ - ๒๒๐

No comments:

Post a Comment