Saturday, August 13, 2011

37.โมรปริตร

                               เริ่มโมรปริตร                                                                                    

                                ปูเรนตัมโพธิสัมภาเร                          นิพพัตตัง  โมระโยนิยัง 
เยนะ  สังวิหิตารักขัง                          มะหาสัตตัง  วะเน  จะรา 
จิรัสสัง  วายะมันตาปิ                         เนวะ  สักขิงสุ  คัณหิตุง 
พรัหมะมันตันติ  อักขาตัง                ปะริตตันตัมภะณามะ  เห ฯ

พระมหาสัตว์บำเพ็ญโพธิสมภาร เกิดในกำเนิดนกยูง               
จัดแจงรักษาตนดีแล้ว ด้วยพระปริตรบทใด
พวกพรานไพรแม้พยายามอยู่ช้านานก็ไม่สามารถจะจับได้
เราทั้งหลายจงสวดพระปริตรอันเรียกขานกันว่า พรหมมนต์
บทนั้น เทอญ



                                                         โมรปริตร

                                                อุเทตะยัญจักขุมา  เอกะราชา
หะริสสะวัณโณ  ปะฐะวิปปะภาโส
พระอาทิตย์เป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเพียงดังสีแห่งทอง
ยังพื้นปฐพีให้สว่าง อุทัยขึ้นมา  

ตัง  ตัง  นะมัสสามิ  หะริสสะวัณณัง  ปะฐะวิปปะภาสัง 
เพราะเหตุนั้น ข้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์นั้น ซึ่งมีสีเพียงดังสีแห่งทอง
ส่องพื้นปฐพีให้สว่าง

ตะยัชชะ  คุตตา  วิหะเรมุ  ทิวะสัง 
ข้าทั้งหลายอันท่านคุ้มครองแล้วในวันนี้ พึงอยู่เป็นสุขตลอดวัน

เย  พราหมะณา  เวทะคุ  สัพพะธัมเม 
เต  เม  นะโม  เต  จะ  มัง  ปาละยันตุ
พราหมณ์ทั้งหลายเหล่าใด ผู้ถึงซึ่งเวทในธรรมทั้งปวง
พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นจงรับความนอบน้อมของข้า
อนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นจงคุ้มครองรักษาข้าด้วย

นะมัตถุ  พุทธานัง  นะมัตถุ โพธิยา 
นะโม  วิมุตตานัง  นะโม  วิมุตติยา 
ความนอบน้อมของข้าจงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ความนอบน้อมของข้าจงมีแด่พระโพธิญาณ
ความนอบน้อมของข้าจงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย
ความนอบน้อมของข้าจงมีแด่วิมุตติธรรม (ธรรมเป็นเครื่อง
หลุดพ้น)

อิมัง  โส  ปะริตตัง  กัตวา  โมโร  จะระติ  เอสะนา ฯ 
นกยูงนั้นได้กระทำปริตรอันนี้แล้วจึงเที่ยวไปเพื่ออันแสวงหา
อาหาร

อะเปตะยัญจักขุมา  เอกะราชา 
หะริสสะวัณโณ  ปะฐะวิปปะภาโส
พระอาทิตย์นี้เป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเพียงดังสีแห่งทอง
ยังพื้นปฐพีให้สว่าง ย่อมอัสดงคตไป

ตัง  ตัง  นะมัสสามิ  หะริสสะวัณณัง  ปะฐะวิปปะภาสัง 
เพราะเหตุนั้น ข้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์นั้น ซึ่งมีสีเพียงดังสีแห่งทอง
ส่องพื้นปฐพีให้สว่าง

ตะยัชชะ  คุตตา  วิหะเรมุ  รัตติง 
                                ข้าทั้งหลายอันท่านคุ้มครองแล้วในวันนี้ พึงอยู่เป็นสุขตลอดคืน

เย  พราหมะณา  เวทะคุ  สัพพะธัมเม 
เต  เม  นะโม  เต  จะ  มัง  ปาละยันตุ
พราหมณ์ทั้งหลายเหล่าใด ผู้ถึงซึ่งเวทในธรรมทั้งปวง
พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นจงรับความนอบน้อมของข้า
อนึ่ง พราหมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นจงคุ้มครองรักษาข้าด้วย

นะมัตถุ  พุทธานัง  นะมัตถุ โพธิยา 
นะโม  วิมุตตานัง  นะโม  วิมุตติยา 
ความนอบน้อมของข้าจงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
ความนอบน้อมของข้าจงมีแด่พระโพธิญาณ
ความนอบน้อมของข้าจงมีแด่ท่านผู้พ้นแล้วทั้งหลาย
ความนอบน้อมของข้าจงมีแด่วิมุตติธรรม (ธรรมเป็นเครื่อง
หลุดพ้น)

อิมัง  โส  ปะริตตัง  กัตวา  โมโร  วาสะมะกัปปะยีติ  ฯ       
นกยูงนั้นได้กระทำปริตรอันนี้แล้วจึงได้พำนักอยู่แล
                                                      



ขุททกนิกาย ชาดก ทุกนิบาต
พระไตรปิฎก เล่ม ๒๗  ข้อ ๑๖๗
                                                     

No comments:

Post a Comment